‘ขายตรง’ กับ ‘อีคอมเมิร์ซ’ ทางขนานหรือเส้นเดียวกัน

ทุกวันนี้ต้องยอมรับเลยว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในทุกภาคส่วนทุกแขนงอาชีพรวมถึงธุรกิจขายตรงและเทคโนโลยีที่ในเวลานี้ใช้กันอย่างแพร่หลายคงหนีไม่พ้น “อินเตอร์เน็ต” ที่ปัจจุบันได้นำมาประยุกต์ใช้กับหลากหลายธุรกิจเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วและเข้าถึงตัวผู้บริโภคอย่างตรงจุดและกระจายในวงกว้าง ทั้งยังรวมถึงการทำการค้าออนไลน์หรือชื่อที่คุ้นหูว่า “อีคอมเมิร์ซ” โดยการสร้างโฮมเพจขึ้นมาและสามารถตกลงซื้อขายกันผ่านทางอินเตอร์เน็ตได้เลย เพราะใช้แค่บัตรเครดิตใบเดียวหรือหมายเลขสมุดบัญชีเท่านั้น

สำหรับ งานอีคอมเมิร์ซ” ได้เริ่มนำมาใช้กันหลายปีแล้ว จนปัจจุบันถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับผู้ที่ทำธุรกิจด้านค้าขาย ทว่า เป็นเรื่องน่าแปลกสำหรับธุรกิจขายตรงที่ยังดูห่างเหินกับเรื่องดังกล่าวพอสมควร สาเหตุสำคัญอาจมาจากความคิดของผู้ประกอบการที่ไม่เห็นความจำเป็นเพราะมีนักขายเป็นวงล้อขับเคลื่อนปั่นรายได้เข้าบริษัทอยู่แล้ว

อย่างไรก็ตาม เมื่อเวลาเปลี่ยนทุกอย่างก็เปลี่ยน กระแส “อีคอมเมิร์ซ” เริ่มเข้ามาสะกิดต่อมความคิดของบรรดาเถ้าแก่ทั้งหลาย เพราะในอนาคตช่องทางจำหน่ายของบริษัทหากยึดติดอยู่กับนักขายเพียงอย่างเดียวคงไม่สามารถทำกำไรได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยนัก เนื่องจากโดนช่องทางอื่นแย่งส่วนแบ่งไปหมด

ดังนั้น ณ วันนี้จึงเห็นบริษัทขายตรงเริ่มมีการทำโฮมเพจเป็นของตัวเองมากขึ้น แต่ก็ยังไม่เป็นรูปเป็นร่างสักเท่าใดนัก เพราะส่วนใหญ่เพิ่งเริ่มและยังไม่มีระบบด้งกล่าว และเชื่อว่ากว่าครึ่งของบริษัทขายตรงแทบจะไม่มีความคิดในการนำอีคอมเมิร์ซเข้ามาใช้

ทั้งนี้ หากจะพูดถึงประโยชน์ของระบบ อีคอมเมิร์ซนั้น อันดับแรกเป็นความสะดวกรวดเร็ว รองลงมาคือลดต้นทุน ส่วนในด้านผู้บริโภคคือ มีสินค้าให้เลือกหลากหลาย สามารถเปรียบเทียบได้อย่างชัดเจนเพื่อให้ได้สินค้าตรงใจที่สุด แต่สิ่งหนึ่งที่บริษัทจะสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้มหาศาล นั่นคือ ฐานข้อมูลของลูกค้าที่สามารถนำไปต่อยอดให้กับนักขายได้ กระนั้นเมื่อกล่าวถึงนักขายต้องยอมรับนักขายส่วนใหญ่ยังไม่ค่อยให้ความสนใจในเรื่องดังกล่าวมากเท่าได้นัก ส่วนนักขายที่ไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับอินเตอร์เน็ตเลยก็มีอยู่มาก
และด้วยความไม่รู้ไม่เข้าใจในเทคโนโลยี ทำให้มีเสียงสะท้อนกลับมาว่าจะเป็นการแย่งตลาดของพวกเขาหรือไม่ ซึ่งหากดูตามความเป็นจริงแล้วมีความเป็นไปได้ เพราะหากมองในมุมที่เป็นผู้บริโภคแล้ว ลำดับแรกคือลดอัตราเสี่ยงภัยต่อตัวเอง เนื่องจากทุกวันนี้สังคมเสื่อมลงทุกที ไม่รู้ว่าคนที่มีกดกริ่งหน้าบ้านแล้วบอกว่าเป็นพนักงานขายจะแฝงตัวมาอยู่ในคราบโจรหรือไม่ อีกทั้งขายตรงก็ยังเป็นธุรกิจที่สังคมยังสับสนอยู่ว่า เป็นธุรกิจที่ช่วยเหลือคนให้มีโอกาสร่ำรวยหรือเป็นธุรกิจที่หลอกลวงทำแชร์ลูกโซ่กันแน่ เพราะดูจะใกล้ชิดสนิทกันเสียเหลือเกิน

ทั้งนี้ ถ้าว่ากันจริงๆแล้วตลาดอีคอมเมิร์ซนั้น ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายคนละกลุ่มกัน เพราะยังมีคนอีกมากที่ไม่สนใจอินเตอร์เน็ตแต่เชื่อว่าไม่นานเทคโนโลยีจะกลายเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตประจำวันไป คนรุ่นเก่าที่ไม่รู้จักอินเตอร์เน็ตจะลดน้อยลงจนกระทั่งหมดไป เช่นนั้นแล้วต่อไปการเดินเคาะประตูบ้านเพื่อขายสินค้าคงไม่ทันกับระบบอีคอมเมิร์ซ

ดังนั้น ทางออกสำหรับนักขายนั้นต้อง “หนามยอกเอาหนามบ่ง” เมื่อบริษัททำนักขายก็ต้องทำเช่นกัน เพราะระบบอีคอมเมิร์ซไม่ได้มีกฎเกณฑ์มาชี้ว่าใครทำได้หรือทำไม่ได้ ทุกคนสามารถทำได้หมด เพียงแต่ขอให้ลงรายละเอียดทุกอย่างให้เด่นชัดและตรงตามความเป็นจริงไม่บิดเบือน

ทั้งนี้ทั้งนั้น อยากบอกว่าธุรกิจขายตรงมีจุดแข็งของตัวเองอยู่ แม้ระบบอีคอมเมิร์ซจะเข้ามามีบทบาทจริง แต่อาจไม่สามารถ ขายสินค้าได้ทุกชนิด เพราะสินค้าขายตรงยังมีอีกมากมายที่จำเป็นต้องใช้คำอธิบาย อาทิ เครื่องกรองน้ำ เครื่องฟอกอากาศ หรือ เครื่องสำอางบางประเภท เป็นต้น ซึ่งสินค้าเหล่านี้ล้วนมีราคาสูง ดังนั้น จึงต้องเห็นตัวสินค้าและทดสอบจนมั่นใจเสียก่อนจึงตัดสินใจซื้อ แต่ถ้าเห็นเพียงภาพปรากฏบนหน้าเว็บไซต์คงยากที่จะเสี่ยง ฉะนั้น สินค้าที่ดูจะขายได้ง่ายที่สุดในระบบออนไลน์ จึงเป็นกลุ่มอุปโภคบริโภคที่ใช้ในชีวิตประจำวัน

อย่างไรก็ตาม นักขายสามารถนำทั้งสองสิ่งมาประยุกต์รวมกันได้ เพราะเมื่อนักขายระบุคุณสมบัติเบื้องต้นลงในโฮมเพจของตนเอง เมื่อผู้บริโภคสนใจแต่ไม่กล้าตัดสินใจซื้อ ด้งนั้น นักขายสามารถนัดวันเวลาเพื่อนำสินค้าไปทดสอบให้เห็นที่บ้านของผู้บริโภคได้เลย จะสามารถปิดการขายได้ง่ายขึ้นเพราะผู้บริโภคเปิดใจอยู่แล้ว

สำหรับระบบอีคอมเมิร์ซนั้น การที่ธุรกิจขายตรงจะนำเข้ามาใช้ถือว่าไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร แต่คงต้องพินิจพิจารณาให้ถ้วนถี่กันสักหน่อยว่าจะส่งผลดีผลเสียอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะบริษัทขายตรง เพราะต้องไม่ลืมว่ารายได้หลักของบริษัทมาจากนักขาย นั่นเท่ากับว่าทุกอย่างต้องขึ้นอยู่กับความคิดเป็นหลัก หากพลาดไปทำลายความคิดจงรักภักดีของนักขาย “อีคอมเมิร์ซ” คงช่วยอะไรบริษัทไม่ได้มากนัก

ไม่มีความคิดเห็น: